Tippaya Villa...

คอร์สปฏิบัติธรรมที่ทิพยะวิลล่าเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา อ.ธีรยุทธ์ เวชเจริญยิ่ง ได้บรรยายธรรมมะในหลายหัวข้อ 1 ในหลายๆหัวข้อนั้นคือ บุญกิริยาวัตถุ 10 ประการ กล่าวโดยสรุปก็คือ การทำบุญนั้นไม่ได้หมายถึงการใส่บาตรทำบุญที่วัดอย่างเดียว บุญนั้นเกิดได้จากการประพฤติปฏิบัติตัวในชีวิตปรกติประจำวันนี้เอง 

บุญกิริยาวัตถุ แปลว่า หลักแห่งการบำเพ็ญบุญ หรือวิธีทำบุญ ทำความดี มี 10 ประการ ดังนี้
 
1. ทานมัย บุญเกิดจากการให้ทาน
 
2. สีลมัย บุญเกิดจากการรักษาศีล
 
3. ภาวนามัย บุญเกิดจากการเจริญภาวนา
 
4. อปจายนมัย บุญเกิดจากการอ่อนน้อมถ่อมตน
 
5. เวยยาวัจจมัย บุญเกิดจากการขวนขวายในกิจที่ชอบ
 
6. ปัตติทานมัย บุญเกิดจากการให้ส่วนบุญ
 
7. ปัตตานุโมทนามัย บุญเกิดจากการอนุโมทนาส่วนบุญ
 
8. ธัมมัสสวนมัย บุญเกิดจากการฟังธรรม
 
9. ธัมมเทสนามัย บุญเกิดจากการแสดงธรรม
 
10. ทิฏฐุชุกัมม์ การทำความเห็นให้ตรง การปรับปรุงความคิดเห็นให้ถูก

  
  ในโอกาสหน้าทางทิพยะวิลล่า
  จะได้จัดคอร์สธรรมวิสัชนาขึ้นอีกครั้ง
  จะเป็นเดือนไหน เดือนอะไร
  ทางเพจจะได้แจ้งให้ทราบต่อไป

อาจารย์ธีรยุทธ์ เวชเจริญยิ่ง

อ.ธีรยุทธ เวชเจริญยิ่ง ท่าน ดำรงตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายส่งออก บริษัท ผลไม้กระป๋องประจวบ จำกัด ในขณะเดียวกันก็ยังเป็นผู้บรรยายธรรม ที่วัดพุทธปัญญา ตั้งอยู่บริเวณด้านหลังกระทรวงสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรีอยู่เป็นประจำทุก เดือน รวมทั้งมีผลงานด้านการเขียนหนังสือธรรมะฉบับธรรมทาน ที่คุ้นหูคุ้นตาหลายๆท่านนั่นคือ “หนังสือสอนแม่หัดปฏิบัติธรรม” และ “หนังสือใหม่แกะกล่อง”

โปรแกรมเที่ยววัด แพคเกจ 3 วัน 2 คืน

วันที่1
-รับจากสนามบิน แวะเยี่ยมชมวัดเจดีย์หลวง วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร

(ขอบคุณที่มาของภาพ : wikipedia)

Check in รีสอร์ตทิพยะวิลล่า
-รับประทานอาหารเย็น

วันที่2
-รับประทานอาหารเช้า
-ไปเชียงราย เยี่ยมชม
วัดร่องขุ่น
วัดพระธาตุดอยตุง
พระตำหนักดอยตุง
วัดพระแก้ว
วัดแสงแก้วโพธิญาณ
-กลับรีสอร์ตทิพยะวิลล่า
-รับประทานอาหารเย็น

วันที่3
-รับประทานอาหารเช้า
-check out รีสอร์ตทิพยะวิลล่า
-เยี่ยมชมวัดศรีสุพรรณ
-ซื้อของฝากที่ตลาดวโรรส
-ไปส่งที่สนามบิน

กรู๊ปทัวร์ 10 คนๆละ 3,990 บาท 

น้ำพุร้อนดอยสะเก็ด

เป็นน้ำพุร้อนเล็กๆในหุบเขาเทพเสด็จ - ป่าเมี่ยง

เปิดเป็นเมืองสปา สำหรับต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ

ใกล้ทิพยะวิลล่าเพียง 20 นาทีขับรถ

มีบริการทั้งห้องวีไอพี และห้องรวมแยกชายหญิง

ที่ขาดไม่ได้ก็คือบริการนวดแผนไทย แต่สิ่งที่พิเศษก็คือมีสระว่ายน้ำให้เด็กๆเล่น

บริการรับส่งฟรีสำหรับลูกค้าของทิพยะวิลล่า

 * Zipline

- Flight of the Gibbon

ซิปไลน์ โหนสลิงเหนือยอดไม้ ชมป่าดิบของดอยสะเก็ด เชียงใหม่

ไฟล์ท ออฟ เดอะ กิบบอน ได้เปิดเส้นทางการผจญภัยการซิปไลน์ครั้งแรกในเชียงใหม่เมื่อปี พ.ศ. 2550 นับตั้งแต่เปิดให้บริการทางเราได้พยายามปรับปรุง แก้ไข การให้บริการของเราเพื่อให้เป็นที่หนึ่งของทัวร์ซิปไลน์แห่งภูมิภาคเอเชีย สร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำของคุณท่ามกลางป่าธรรมชาติ ด้วยการโหนสลิง การปีนป่ายลงเขาด้วยเชือก การเดินข้ามสะพานลอย และการเดินเขา เจ้าหน้าที่สกายเรนเจอร์จะทำหน้าที่ดูแลท่านในทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นจนจบการผจญภัยด้วยมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด นอกจากนี้ท่านจะได้ลิ้มลองรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของอาหารกลางวันที่หมู่บ้านแม่กำปอง และบริการรับส่งด้วยรถตู้ปรับอากาศจากที่พักถึงคอร์สซิปไลน์

Flight of the Gibbon opened our original Thailand Zipline course in Chiang Mai in 2007. Since then, we’ve continually strived to improve our service to make it the best Zipline course in Asia. We make your day in the Thai rainforest unforgettable. With Ziplines, abseils, sky bridges and nature trails, your day of Ziplining in the Chiang Mai rainforest will be a memorable experience. And we will take care of you every step of the way with expert Sky Rangers and the highest possible safety standards on the course. You will also be treated to a tasty Thai lunch and receive round-trip transfers to and from your hotel in our comfortable air-conditioned vans.

พักที่ทิพยะวิลล่า เที่ยวซิปไลน์เชียงใหม่ใกล้กันนิดเดียว

บริการรถรับส่งจากวิลล่าไปเที่ยวซิปไลน์ - แม่กำปอง ฯลฯ

.................................................................................................. 

- jungleflight 

บริการรถรับส่งท่องเที่ยวจังเกิ้ลไฟล์จาก ทิพยะรีสอร์ท

.........................................................................................................................

Adventure - ATV

Trekking - Maetakrai National Park

Our Arabica Coffee

Khonlao The village of Organic coffee of chiangmai... 

Healing by music

"ชนใดไม่มีดนตรีกาล ในสันดาน เป็นคนชอบกลนัก" บทประพันธ์นี้อยู่ในเรื่อง "เวนิสวาณิช" พระราชนิพนธ์แปลในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 จาก "The Merchant of Venice" ของ William Shakespeare

ภาพจาก : http://www.visitingnurse.org/wp-content/uploads/2011/10/ADC-Music-Therapy-Group-Sing.jpg

ดนตรีมิใช่มีเพื่อนำความสุข ความสุนทรีย์ในอารมณ์มาสู่ผู้เล่นและผู้ฟัง หรือทำให้เกิดความเพลิดเพลิน ไพเราะเสนาะหูเท่านั้น ดนตรียังให้อะไรมากกว่าที่คิด หลายท่านคงได้ยินคำว่า “ดนตรีบำบัด” มาแล้ว

ดนตรีบำบัด (music therapy) คือ การใช้กิจกรรมทางดนตรี ไม่ว่าจะเป็นการฟังหรือเล่นดนตรี การร้องเพลง แต่งเพลง เพื่อบำบัดความเจ็บป่วย ฟื้นฟูสภาพร่างกาย อารมณ์ และสติปัญญา ดนตรีบำบัดมักใช้ในโรงพยาบาล ศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพ โรงเรียน สถานเลี้ยงดู หรือแม้กระทั่งในที่พักอาศัย ผู้อ่านคงเคยไปโรงพยาบาลบางแห่ง โดยเฉพาะโรงพยาบาลของรัฐซึ่งมีผู้ไปรับการรักษาเป็นจำนวนมาก จะมีวงดนตรีของกลุ่มอาสาสมัครไปร้องเพลงขับกล่อมให้คนไข้และประชาชนได้รับฟังเพื่อผ่อนคลายอาการเจ็บป่วย หรือลดความเครียดจากการรอคอยเพื่อรับบริการต่าง ๆ ในโรงพยาบาล

มีคำกล่าวว่า ดนตรีเป็น "mind medicine" ดนตรีใช้เป็นเครื่องมือในการรักษามานานหลายศตวรรษ ธรรมชาติของดนตรีที่ไร้พรมแดน มีได้หลากหลายรูปแบบ ทำให้เข้ากับคนได้อย่างไม่จำกัดเพศ วัย เชื้อชาติและศาสนา ดนตรีช่วยในการรักษาปัญหาทางร่างกายและจิตใจ ไม่ว่าท่านจะฟังดนตรีประเภทใด ลูกทุ่ง ลูกกรุง หรือดนตรีคลาสสิก (classical music) ดนตรีกระตุ้นสมองเกือบทุกส่วน เช่น ส่วน auditory (การได้ยิน), motor cortex (เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของแขน ขา ใบหน้า) limbic system (อารมณ์ จิตใจ การตระหนักรู้ ความเข้าใจ และความจำ)

จากการวิจัย พบว่า ผู้ป่วยก่อนเข้ารับการผ่าตัด เมื่อได้ฟังดนตรี จะช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวล ระดับของ cortisol ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความเครียดลดลง มากกว่าการใช้ยา การเรียนเปียโนควบคู่ไปกับการทำกายภาพบำบัด ช่วยให้ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองที่มีอาการอัมพาตที่แขนซีกซ้ายหรือซีกขวาเพียงซีกเดียว สามารถเคลื่อนไหวร่างกายชนิดที่ต้องอาศัยทักษะอย่างละเอียด ได้ดีกว่าและมากกว่าผู้ที่ทำกายภาพบำบัดเพียงอย่างเดียว อย่างมีนัยสำคัญ ผลการวิจัยยังพบด้วยว่าการฟังดนตรี ช่วยลดอาการปวดแบบเรื้อรังได้ถึงร้อยละ 21 และลดภาวะซึมเศร้าได้ถึงร้อยละ 25 นอกจากนี้ยังช่วยให้อารมณ์สงบ และช่วยบำบัดอาการนอนไม่หลับ

อ่านต่อ...คลิ๊ก!

ที่มา ...http://www.pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article/395/%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%9A%E0%B8%B3%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%94/

1 Day Best Of Chiang Rai Temples (A day at White Temple, Blue Temple and Black House)

Wat Rong Khun, commonly referred to as the White Temple, is a contemporary unconventional Buddhist and Hindu temple in Chiang Rai, Thailand. It was designed by National Artist Mr. Chalermchai Kositpipat. Construction for Wat Rong Khun began in 1997 and continues to this day.

White Temple  is different from any other temple in Thailand, as its ubosot (Pali: uposatha; consecrated assembly hall) is designed in white color with some use of white glass. The white color stands for Lord Buddha’s purity; the white glass stands for Lord Buddha’s wisdom that "shines brightly all over the Earth and the Universe."

We would like to recommend you the temple called ” Rong Suea Ten” or the Blue Temple which was built by the student of
Mr. Chalermchai Kositpipat who built The famous White Temple.
Blue Temple was established in October 27th,2005  and successfully complete in January 22nd,2016 ( The temple is already 1 year now.) It is on the area of 6 acres. Blue color represents the Dharma, the Lord Buddha virtue code of moral that spread all over the world becomes the doctrine of logically naturalistic as the bright blue sky. This temple displays the contemporary Buddhist art that implied the Lord Buddha ‘s doctrine. The concept led the Buddhist to turn back and study the Dhrama in order to apply for their daily life as well as for whom demanded to study this for withdrawal from the round of existences that called ” The 4 Noble Truths”, gospel  truth and  the Eightfold Path ( The path that lead people to the extinguish of sufferings.)

The Black House (Baan Si Dum): The House of National Artist - Dr. Thawan Duchanee
This is the residence of Dr. Thawan Duchanee who is a renowned Thai National Artist. It is also a museum. The area consists of many unique buildings. The main building is called "Baan Si Dum (The Black House)" which is at the entrance. The architecture of the buildings are very unique. There is a great collection of furniture designed by the artist, animal skins, and wood carving. Each building consists of different categories of things that inspired the artist. There is even a talking bird that will say hello to you if you happen to walk by.